สกรูปลายสว่านที่ผลิตจากสแตนเลส กับ ที่ผลิตจากเหล็ก แตกต่างกันอย่างไร?
อัพเดทล่าสุด: 16 มิ.ย. 2024
655 ผู้เข้าชม
เมื่อเปรียบเทียบสกรูปลายสว่านสแตนเลส (Stainless Steel Self Drilling Screw) กับสกรูปลายสว่านเหล็กชุบรุ้ง (Yellow Zinc plated self drilling screw) มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้:
สกรูปลายสว่านสแตนเลส (Stainless Stainless Steel Self Drilling Screw):
ข้อดี:
- ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง เหมาะสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือกรดเกลือเข้มข้น
- อายุการใช้งานยาวนาน
- ไม่เป็นสนิม ทำให้ไม่เกิดคราบสนิมไหลเปื้อนวัสดุโดยรอบ
- มีความสวยงาม เงางาม
- ราคาสูงกว่าสกรูเหล็กชุบรุ้ง
- ความแข็งแรงน้อยกว่าสกรูเหล็กชุบรุ้ง (แตกต่างกันมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับเกรดของสแตนเลสด้วยเช่นกัน)
- อาจติดตั้งยากกว่า เนื่องจากตัวสกรูนิ่มกว่าเหล็กชุบ และวัสดุที่ต้องการขันเจาะมีความแข็งมาก
ข้อดี:
- ราคาถูกกว่าสกรูสแตนเลส
- ติดตั้งง่าย เจาะได้รวดเร็ว
- มีความแข็งแรงสูง
- เคลือบสังกะสี (Zinc) โดยกระบวนการชุบ Electro Galvanized ทำให้ช่วยป้องกันสนิมได้ระดับหนึ่ง
- อายุการใช้งานสั้นกว่าสกรูสแตนเลส โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีกรดเกลือเข้มข้น
- อาจเกิดสนิมได้เมื่อชั้นเคลือบสังกะสีถูกทำลายหรือลอกออก
- เมื่อเกิดสนิม อาจทำให้เกิดคราบสกปรกบนวัสดุโดยรอบ
บทสรุป:
การเลือกใช้สกรูชนิดใดขึ้นอยู่กับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมการใช้งาน หากเป็นงานที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงและมีงบประมาณเพียงพอ สกรูสแตนเลสจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากเป็นงานทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและต้องการประหยัดต้นทุน สกรูเหล็กชุบรุ้งก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
สนใจสั่งซื้อสกรูปลายสว่าน คลิ๊กเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
สกรูเจาะตัวเองเป็นอุปกรณียึดที่สำคัญในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การผลิต และอุตสาหกรรมต่างๆ คู่มือนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกของหัวสกรูที่มีความนิยมในประเทศไทยสูงสุด 3 ประเภท:
3 ธ.ค. 2024
ในวงการอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง หัวน็อตถือเป็นอุปกรณ์ยึดติดที่มีความสำคัญอย่างมาก แต่หลายคนอาจสงสัยว่าระหว่าง "หัวน็อตดำชุบขาว" กับ "หัวน็อตมิลขาว" นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะดูภายนอกก็เหมือนๆ กัน วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน
20 พ.ย. 2024
เปรียบเทียบสกรูแข็ง เกรด 8.8, 10.9 และ 12.9 เราขออธิบายความแตกต่างตามหลักวิศวกรรม ของสกรูแข็ง เกรด 8.8, 10.9 และ 12.9 พร้อมตารางเปรียบเทียบค่าความแข็ง (Hardness) และ แรงดึง (Tensile) ดังนี้
4 ก.ย. 2024